ปัญหาการเลี้ยงไก่ แล้วลูกไก่มักจะตายมากกว่าการรอด การเลี้ยงไก่ชนนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด
การอนุบาลลูกไก่โดยเฉพราะหน้าฝน เป็นช่วงที่เลี้ยงลูกไก่ยากมากเพราะลูกไก่มักจะเป็นหวัด แล้วโรคอื่นๆจะแทรกประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนทำให้เชื้อโรคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเชื้อ แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ แพร่กระจายได้รวดเร็วที่สุด การเลี้ยงหรืออนุบาลลูกไก่มีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้ต้องให้ความอบอุ่นเพียงพอในกรณีที่เลี้ยงเอง ไม่ได้ให้แม่ของมันเลี้ยง
โดยการกกไฟและอยู่ในสุ่มไม่ให้ถูกละอองฝนหากให้แม่มันเลี้ยงต้องขังสุ่ม ไว้ในที่ไม่โดนฝน หากให้แม่มันเลี้ยงแล้วปล่อยให้แม่ของมันพาไป ตากลมตากฝน ก็มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่ายต้องมีการทำวัคซีน ให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลาที่กรมปศุสัตว์กำหนด คือทำนิวคลาสเซิล เมื่อลูกไก่ได่ 3-7 วัน โดยการหยอดจมูก หรือตาของลูกไก่จำนวน 2-3 หยด เมื่อครบ 3 เดือนทำอีกครั้งหนึ่งทำวัคซีนหลอดลม เมื่อลูกไก่อายุได้ 7-15 วัน โดยการหยอดจมูกหรือตา จำนวน 2-3 หยดทำวัคซีนหวัดหน้าบวม เมื่อลูกไก่อายุได้ 2 เดือน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังตัวละ 0.5 ซีซีทำวัคซีนอหิวาต์ เมื่อลูกไก่อายุได้ 3 เดือนโดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังตัวละ 1.0 ซีซีอนึ่งในการทำวัคซีนมีข้อปฏิบัติที่ควรระมัดระวัง
เพราะบางทีการทำวัคซีนป้องกัน กลับกลายเป็นการเติมเชื้อให้ไก่ไปเลยก็ม่ คือการทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ควรทำในที่ร่มอย่าทำในที่แดดจ้า เพราะจะทำให้วัคซีนเสื่อมการทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หากเกินกำหนดวัคซีนจะเสื่อม
อย่าเทวัคซีนที่เหลือลงพื้นดิน เพราะจะทำให้เชื้อนั้นเจริญเติบโตได้ในที่ชื้นแฉะ กลายเป็นเชื้อโรคแพร่ระบาดต่อไปวัคซีนต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิไม่เกิน 5-8 C มิฉะนั้นวัคซีนจะเสื่อมการทำวัคซีนต้องทำกับไก่ที่มีสุขภาพแข็งแรง หากทำในไก่ที่ไม่สบายเช่นเป็นหวัด ถือเป็นข้อห้ามเพราะเท่ากับไปเพิ่มเชื้อโรคในไก่ ทำให้ไก่อ่อนแอ บางครั้งถึงตายได้
การทำวัคซีน ไก่บางตัวจะแพ้ โดยเฉพาะไก่รุ่น, ไก่ใหญ่ที่ไม่เคยทำวัคซีนมาตั้งแต่เล็กจะมีการแพ้ ดังนั้นควรให้กินยาพาราเซทตามอล สักครึ่งเม็ดหลังจากทำวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนนิวคลาสเซิล ชนิดที่แทงปีกหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง รวมทั้งชนิดเชื้อตายด้วย