การฝึกฝนไก่ชนเพื่อนำไปสู่การแข่งขันภายในสนามจริง มีความสำคัญต่อผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเรื่องสำคัญที่คุณห้ามมองข้าม การจัดทำตารางการฝึกฝนที่เหมาะสม พร้อมไปด้วยการใช้วิธีฝึกที่เหมาะสมต่อตัวไก่ เพื่อทำให้เกิดความแข็งแกร่งและสามารถสร้างโอกาสของการชนะภายในสนามได้มากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหา ตารางการฝึกฝนไก่ชน เพื่อนำมาสู่การคว้าชัยชนะที่ง่ายขึ้น ขอแนะนำวิธีการทำตารางฝึกซ้อมไก่ชนดังนี้
ตารางฝึกไก่และความรู้เรื่องความพร้อม เพื่อการฝึกฝนที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ก่อนที่จะมีการออกชนจริง ควรมีการบำรุงไก่ด้วยอาหารสุดพิเศษและสมุนไพร รวมไปถึงการจัดทำทุกกิจกรรมของไก่ใน 1 วันให้ตรงเวลาและทำทุกวัน ดังนั้นการฝึกฝนจึงไม่ใช่แค่เพียงฝึกตัวไก่เท่านั้น แต่ยังฝึกเจ้าของด้วย เพราะการลงแข่งขันจริงทั้งตัวไก่ชนและเจ้าของจะต้องประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้งนี้การเลือกอายุไก่ชนเพื่อมาฝึกซ้อมควรอยู่ที่ประมาณ 10-12 เดือนขึ้นไป เพื่อทำให้ร่างกายเตรียมความพร้อมสู่การฝึกฝนได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อฝึกหนักแล้วจะไม่หนี ดังนั้นถ้าคุณต้องการ ตารางการฝึกฝนไก่ชน เพื่อฝึกซ้อมไก่ชนอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 2 สัปดาห์ เป็นต้นไป ขอแนะนำการจัดทำตารางดังนี้
1.การทำความสะอาด เริ่มต้นจากเรื่องการทำความสะอาดที่ควรจัดเวลาในช่วงสาย เพื่อให้ไก่ได้ตากขน โดยเริ่มต้นจากการลงกระเบื้อง การลงขมิ้น และการกาดแดด สำหรับการลงกระเบื้องจะเป็นไปตามตำราเลี้ยงไก่ชนโบราณ ที่จะใช้ความร้อนจากกระเบื้องเผาไฟหรือกระเบื้องที่นำไปอุ่น แล้วเมื่อทำการกาดน้ำตอนเช้าจะทำการลงกระเบื้องอุ่นต่อ เพื่อทำให้กล้ามเนื้อของไก่เกิดความกระชับ
จากนั้นจะเป็นการลงขมิ้นเพื่อรักษาบาดแผลต่าง ๆ ที่อยู่บนผิวหนังของไก่ พร้อมทำให้ผิวพรรณดี กำจัดแมลง และไรที่จะสร้างความรำคาญแก่ตัวไก่ แต่ทั้งนี้จะต้องดูสายพันธุ์ให้ดี เพราะบางสายพันธุ์ไม่สามารถนำไปลงขมิ้นได้ เมื่อทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้ว
ต้องมีการกาดแดดเพิ่มเติม โดยการกาดแดดอาจจะปล่อยให้ไก่เดินในบริเวณที่แจ้งหรือใช้วิธีการครอบสุ่มไว้กลางแจ้งที่แดดส่องถึงแบบอ่อน ๆ เพื่อเป็นการช่วยควบคุมน้ำหนักและทำให้ไก่มีความอึดทนมากขึ้น พร้อมทำให้กระดูกแข็งแรงกว่าเดิม
2.เริ่มวิ่งสุ่ม เริ่มต้นการฝึกแรกจากการวิ่งสุ่ม เพื่อเพิ่มพลังของขาให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยให้มีผู้นำไก่ตัวอื่นมาล่อและนำไก่ที่จะฝึกลงใส่ไว้ในกลุ่มที่มีความใหญ่ประมาณ 1.80 x 1.50 เซนติเมตร (กว้าง x สูง) จากนั้นนำไก่อีกตัวไปล่อเพื่อให้ไก่ที่อยู่ในสุ่มได้วิ่งไล่
โดยให้เป็นการล่อเพื่อยั่วโมโห เมื่อใดที่ไก่เริ่มโมโหแล้วจะเกิดการวิ่งตี โดยการล่อนั้นให้ใช้ไก่ตัวล่อวนซ้าย-วนขวาไปเรื่อย ๆ ข้างละ 20 รอบ ให้วิ่งประมาณ 50-60 รอบ แล้วเพิ่มรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเกิดความคุ้นชิน พร้อมการล่อให้เกิดการบินหรือการกระโดดประมาณ 30 ครั้ง ควรวิ่งสุ่มในพื้นที่บริเวณที่มีดินนุ่ม เพื่อไม่ให้ขาไก่เจ็บหรือได้รับบาดเจ็บส่วนอื่น ๆ ง่ายจนเกินไป
3.การล่อไก่ การล่อไก่ คือ วิธีช่วยทำให้ไก่ที่ฝึกเกิดพละกำลังและมีทักษะของการเข้าสู้มากขึ้น โดยการล่อไก่นั้นจำเป็นจะต้องดูพื้นฐานของตัวไก่เป็นหลักและวางแผนกำหนดของการล่อให้เหมาะสม นำไก่อีกตัวมาล่อไก่ที่จะฝึกให้ชน พร้อมทำให้ไก่บิน ตีลังกา
หรือทำท่าที่ถูกต้องเท่านั้น เพื่อทำให้เกิดความแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งการเพาะไก่จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อไก่เกิดความแข็งแรงและสามารถที่จะลงตีได้แรงทุกยก สามารทนทานได้ดีกว่าคู่ต่อสู้ แต่ทั้งนี้ควรต้องทำอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นกล้ามเนื้อของไก่อาจเกิดการอักเสบหรือฉีกขาดได้
4.การลงนวม การลงนวมจะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะ จะทำหลังจากการฝึกวิ่งสุ่มและการล่อไก่มาแล้ว เพราะจะต้องเตรียมร่างกายของไก่ให้มีความแข็งแรงพร้อมก่อน โดยการลงนวมไก่จะเป็นการฝึกพละกำลังให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ใช้เพื่อเสริมกล้ามเนื้อและทำให้เกิดความอึดทนมากกว่าเดิม การลงนวมจะเป็นการนำนวมมาพันที่แข้งและมีนวมปาก พร้อมการใช้พลาสเตอร์ในการปิดจุดที่อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย จากนั้นให้นำคู่ต่อสู้ที่มีรูปร่างหรือน้ำหนักใกล้เคียงกันมาสู้ อาจจะต้องเป็นไก่เชิงด้วยกันทั้งคู่ เพื่อทำให้การลงนวมเกิดความสมจริงมากขึ้น ที่สำคัญคือควรตัดเดือยของคู่ซ้อมออกก่อน เพื่อไม่ต้องเสี่ยงต่อการบาดเจ็บใด ๆ
5.การหาคู่ลงนวม สำหรับคู่ลงนวมจะต้องมีรูปร่าง น้ำหนัก และมีเชิงไก่ที่ใกล้เคียงกัน แต่อย่านำไก่ที่มีเชิงสูงกว่าหรือมีประสบการณ์มากกว่ามาลงเป็นคู่รวม เพราะอาจทำให้ก่ที่ฝึกเกิดอาการบาดเจ็บและโดนสาดแข้งง่าย ๆ เตรียมพร้อมด้วยกันลงนวมทั้งปากบน ปากล่าง เดือย แข้ง และจุดต่าง ๆ ที่อาจจะเจ็บง่าย ควรฝึกลงนวมและปล้ำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ทำอย่างต่อเนื่องจนครบ 13 ครั้ง จะทำให้ไก่พร้อมลงสู้จริงได้ดีมากขึ้น
ถ้าคุณเป็นผู้ดูแลไก่ชนและต้องการวิธีฝึกฝน เพื่อทำให้ไก่ของคุณมีประสิทธิภาพและสามารถสู้บนสนามได้อย่างดุเดือด มีความแข็งแรงทนทาน แนะนำการสร้างตารางฝึกฝนของไก่ชนให้ถูกต้อง พร้อมการจัดเวลาพัก เวลากินอาหาร และเวลาของการเดินเล่นให้ครบถ้วน เพื่อลดความเครียด เพื่อให้ไก่มีพละกำลังมากพอจะไปสู้จริงได้ พร้อมคว้ารางวัลมาครองได้ง่ายขึ้น
